การซ่อนตัว ของ ฮิโรโอะ โอโนดะ

ณ ภูเขาแห่งนั้น โอโนดะและเพื่อนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่รับมาต่อไป ทหารทั้งสี่คนนี้ได้พบใบปลิวมีเนื้อความว่า "สงครามจบแล้ว" ในเดือนตุลาคม 1945 อีกครั้งหนึ่ง พวกเขาพบใบปลิวซึ่งทิ้งไว้โดยชาวเกาะ มีเนื้อความว่า "สงครามจบไปตั้งแต่ 15 สิงหาคมแล้ว ลงมาจากเขาเสีย!" ทว่า พวกเขาเห็นว่าใบปลิวเหล่านี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายสัมพันธมิตร เพราะพวกเขาถูกไล่ยิงเมื่อสองสามวันก่อน[1]

หลังจากหลบซ่อนตัวอยู่บนภูเขาลูกนั้นกว่าหนึ่งปี พลเอกโทโมยูกิ ยามาชิตะ แห่งกองทัพภาคที่ 14 สั่งให้โปรยใบปลิวพร้อมคำสั่งให้พวกเขามอบตัวเสียอีกครั้งหนึ่ง ทหารทั้งสี่ได้รับใบปลิวและเชื่อกันว่าเป็นเรื่องเท็จ

ในเดือนกันยายน 1949 พลทหารอากัตสึ ตัดสินใจละกลุ่ม หกเดือนถัดมา เขามอบตัวเองแก่กองทัพฟิลิปปินส์ ทหารสามคนที่เหลือเห็นว่าการกระทำของพลทหารอากัตสึนำปัญหาทางความมั่นคงมาให้แก่กลุ่ม และจัดการระแวดระวังมากขึ้น

ในปี 1952 มีการโปรยจดหมายและรูปถ่ายจากครอบครัวของทหารทั้งสามลงมารอบบริเวณภูเขาเพื่อขอให้มอบตัว ทว่า ทหารทั้งสามยังคงเชื่อว่า สงครามยุติแล้วนั้นเป็นเรื่องเท็จ ในเดือนมิถุนายน 1953 สิบโทชิมาดะถูกคนหาปลาท้องถิ่นยิงขา แต่โอโนดะช่วยพยาบาลจนหาย ครั้นวันที่ 7 พฤษภาคม 1954 สิบโทชิมาดะถูกคณะค้นหาคนหายิงตาย ในเดือนธันวาคม 1959 มีประกาศว่าโอโนดะตายแล้ว ทว่า เหตุการณ์ในวันที่ 19 ตุลาคม 1972 ซึ่งพลทหารโคซูกะถูกเจ้าพนักงานตำรวจท้องถิ่นยิงตาย ขณะที่เขาและโอโนดะปฏิบัติการตามคำสั่งที่ได้รับมอบมาด้วยการเผายุ้งฉาง เป็นหลักฐานว่าโอโนดะยังไม่ตาย จึงมีการตั้งคณะค้นหาเขา แต่ไม่พบ

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1974 โอโนดะพบโนริโอะ ซูซูกิ (Norio Suzuki) ซึ่งกำลังเดินทางรอบโลกเพื่อสืบหา "ร้อยโทโอโนดะ, หมีแพนด้า และปิศาจมนุษย์หิมะ ตามลำดับ"[2] ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน ทว่า โอโนดะยังปฏิเสธที่จะมอบตัว เขากล่าวว่า เขายังรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาอยู่

ซูซูกิจึงกลับญี่ปุ่นพร้อมภาพถ่ายเขาคู่กับโอโนดะเพื่อยืนยันว่าได้พบกัน รัฐบาลญี่ปุ่นจึงส่งพันตรีทานิงูจิ ผู้บังคับบัญชาของโอโนดะ ลงพื้นที่ พันตรีทานิงูจิถึงเกาะลูบัง และพบโอโนดะในวันที่ 9 มีนาคม 1974 เขาแจ้งเรื่องการพ่ายสงครามของญี่ปุ่นให้โอโนดะทราบ และสั่งให้โอโนดะวางอาวุธเสีย

หลังจากหลบซ่อนตัวในป่ามาเกือบสามสิบปีหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โอโนดะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ให้มอบตัว เขาได้แต่งเครื่องแบบ พร้อมดาบคู่กาย กับทั้งปืนอาริซากะไรเฟิลชนิด 99 ซึ่งยังใช้การได้ดี บรรจุกระสุนห้าร้อยนัดและระเบิดมืออีกจำนวนหนึ่ง ลงจากภูเขา

แม้ในระหว่างอยู่บนเกาะ เขาได้ฆ่าราษฎรฟิลิปปินส์ไปสามสิบคน และประมือกับตำรวจท้องถิ่นอีกหลายครั้ง แต่เมื่อพิเคราะห์แล้ว ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส (Ferdinand Marcos) อภัยโทษให้เขา

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฮิโรโอะ โอโนดะ http://www.fab.mil.br/Publicacao/Imprensa/Noticias... http://history1900s.about.com/library/weekly/aa120... http://www.damninteresting.com/?p=253 http://www.japanprobe.com/?p=734 http://www.primitiveways.com/jungle_30_years.html http://www.toulo.com/product/ProductDetail.asp?Pro... http://www.wanpela.com/holdouts/profiles/onoda.htm... http://search.japantimes.co.jp/cgi-bin/fl20070116j... http://www.onodashizenjuku.or.jp/ http://www.thairath.co.th/content/oversea/397170